วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กิจกรรมที่ 3



นางรัศมี วุฒิเสน
ผู้อำนวยการโรงเรียนอุดรธรรมานุสรณ์
อันดับ คศ.3
ตำแหน่งเลขที่ 57186
โรงเรียนอุดรธรรมานุสรณ์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 1
อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีประวัติการทำงานและผลงาน
นางรัศมี วุฒิเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนอุดรธรรมานุสรณ์
อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี1. รายละเอียดทั่วไป
ชื่อนางรัศมี วุฒิเสน อายุ 52 ปี ตำแหน่งผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
ตำแหน่งเลขที่ 57186 ระดับ คศ.3 รับเงินเดือน 34,000 บาท โรงเรียนอุดรธรรมานุสรณ์
อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 1

2. ประวัติการศึกษาคุณวุฒิ วิชาเอก วัน เดือน ปี ที่สำเร็จการศึกษา ชื่อสถานศึกษา
สส . ม . สังคมสงเคราะห์ศาสตร์มหาบัณฑิต ( ในกระบวนการยุติธรรม ) 15 พฤษภาคม 2542 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ประกาศนียบัตรบัณฑิต บริหารการศึกษา 29 กุมภาพันธ์ 2547 สถาบันราชภัฏอุดรธานี
สัมฤทธิบัตร บริหารการศึกษา 20 มิถุนายน 2546 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
กศ . บ . สังคมศึกษา มีนาคม 2519 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พิษณุโลก

3. ประวัติการรับราชการ
3.1 เริ่มรับราชการเมื่อวันที่ 15 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2521 ตำแหน่ง อาจารย์ 1
โรงเรียนกุมภวาปี อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี สังกัดองค์การมัธยมศึกษา
กรมสามัญศึกษา

3.2 ดำรงตำแหน่งอื่น ๆ ดังนี้วัน เดือน ปี ตำแหน่ง รับเงินเดือน
ระดับ / อันดับ เงินเดือน
1 พฤษภาคม 2521 อาจารย์ 1 ระดับ 3 โรงเรียนกุมภวาปี อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี 1 1,750
1 ตุลาคม 2531 อาจารย์ 2 ระดับ 5 โรงเรียนกุมภวาปี อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี 5 5,745
18 มกราคม 2536 ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงเรียนกุมภวาปี อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี 7 11,980
1 ตุลาคม 2541 อาจารย์ใหญ่ โรงเรียนตาดทองพิทยาคม อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี 7 19,920
1 ตุลาคม 2543 ผู้อำนวยการ โรงเรียนตาดทองพิทยาคม อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี 8 21,560
11 มกราคม 2544 ผู้อำนวยการ โรงเรียนหนองยางชุมพิทยาคม อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี 8 22,560
1 เมษายน 2548 ผู้อำนวยการ โรงเรียนหนองยางชุมพิทยาคม อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี คศ .3 32,740
9 พฤศจิกายน 2549 ผู้อำนวยการ โรงเรียนอุดรธรรมานุสรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี คศ .3 34,000

3.3 ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียน ระดับ 8 ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนอุดรธรรมานุสรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานีเขต 1
ผลงานทางวิชาการ (งานวิจัย)ลำดับ เรื่อง หมายเหตุ
1 การให้การบริการแนะแนวในโรงเรียนมัธยมศึกษา : ศึกษากรณีโรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดอุดรธานี 2545
2 การพัฒนาบุคลากรเพื่อเสริมสร้างให้นักเรียนดี เก่ง มีสุขโดยบูรณาการกับหยดน้ำบนใบบัว ประวัติและคำสอนของหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน 2547
3 การพัฒนาจริยธรรมโรงเรียนหนองยางชุมพิทยาคม โดยใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม พัฒนาครูและนักเรียน 2549
4 การพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
โดยพัฒนาเหตุผลเชิงจริยธรรม  

เกียรติประวัติและการทำงาน
ข้าพเจ้า นางรัศมี วุฒิเสน ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา
ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2536 นับถึงปัจจุบันเป็นเวลา 14 ปี ทั้งนี้ได้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วย และผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา ดังนี้
1. ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนกุมภวาปี อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่ พ.ศ.2536 - 2541
2. อาจารย์ใหญ่ และผู้อำนวยการ โรงเรียนตาดทองพิทยาคม อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่ พ.ศ. 25422543
3. ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองยางชุมพิทยาคม อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่ พ.ศ. 25442549
4. ผู้อำนวยการโรงเรียนอุดรธรรมานุสรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธาน
 
สิ่งที่ประทับใจ   ประทับใจในสิ่งที่อ.เป็นคนที่จิตใจที่เหตุผล  ใช้หลัธรรมมะในการตัดสินใจ  และมีความคิดที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมในด้านการศึกษา  รวมถึงความขยันขององที่มีพัฒนาการด้านหน้าที่การงาน



ที่มา  http://www.udontham.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=55:2010-04-15-02-36-38&catid=25:the-project&Itemid=2

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กิจกรรมที่ 2

1.ศึกษาทฤษฎีและหลักการ(เจ้าของทฤษฎี)

ทฤษฎีทางการบริหารและวิวัฒนาการการบริหารการศึกษา     ระยะที่ 1 ระหว่าง ค.ศ. 1887 – 1945 (ภาวิดา ธาราศรีสุทธิ, 2542: 10) ยุคนักทฤษฎี

การบริหารสมัยดั้งเดิม (The Classical organization theory) แบ่งย่อยเป็น 3 กลุ่มดังนี้
          1.กลุ่มการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ของเทย์เลอร์(Scientific Management)ของ
เฟรดเดอริก เทย์เลอร์ (Frederick Taylor) ความมุ่งหมายสูงสุดของแนวคิดเชิงวิทยาศาสตร์คือ จัดการบริหารธุรกิจหรือโรงงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด Taylor มองคนงานแต่ละคนเปรียบเสมือนเครื่องจักรที่สามารถปรับปรุงเพื่อเพิ่มผลผลิตขององค์การได้ เจ้าของตำรับ “The one best way” คือประสิทธิภาพของการทำงานสูงสุดจะเกิดขึ้นได้ต้องขึ้นอยู่กับสิ่งสำคัญ 3 อย่างคือ
                    1.1 เลือกคนที่มีความสามารถสูงสุด (Selection)
                    1.2 ฝึกอบบรมคนงานให้ถูกวิธี (Training)
                    1.3 หาสิ่งจูงใจให้เกิดกำลังใจในการทำงาน (Motivation)
        เทย์เลอร์ ก็คือผลผลิตของยุคอุตสาหกรรมในงานวิจัยเรื่อง “Time and Motion Studies” เวลาและการเคลื่อนไหว เชื่อว่ามีวิธีการการทางวิทยาศาสตร์ที่จะบรรลุวัตถุประสงค์เพียงวิธีเดียวที่ดีที่สุด เขาเชื่อในวิธีแบ่งงานกันทำ ผู้ปฏิบัติระดับล่างต้องรับผิดชอบต่อระดับบน เทย์เลอร์ เสนอ ระบบการจ้างงาน(จ่ายเงิน)บนพื้นฐานการสร้างแรงจูงใจ สรุปหลักวิทยาศาสตร์ของเทยเลอร์สรุปง่ายๆประกอบด้วย 3 หลักการดังนี้
                      1. การแบ่งงาน (Division of Labors)
                      2. การควบคุมดูแลบังคับบัญชาตามสายงาน (Hierarchy)
                      3. การจ่ายค่าจ้างเพื่อสร้างแรงจูงใจ (Incentive payment)
          2. กลุ่มการบริหารจัดการ(Administration Management) หรือ ทฤษฎีบริหารองค์การอย่างเป็นทางการ(Formal Organization Theory ) ของ อังรี
ฟาโยล (Henri Fayol) บิดาของทฤษฎีการปฏิบัติการและการจัดการตามหลักบริหาร ทั้ง Fayol และ Taylor
จะเน้นตัวบุคลปฏิบัติงาน + วิธีการทำงาน ได้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลแต่ก็ไม่มองด้าน จิตวิทยา” (ภาวิดา ธาราศรีสุทธิ, 2542: 17)Fayol ได้เสนอแนวคิดในเรื่องหลักเกี่ยวกับการบริหารทั่วไป 14 ประการ แต่ลักษณะที่สำคัญ มีดังนี้
                    2.1 หลักการทำงานเฉพาะทาง (Specialization) คือการแบ่งงานให้เกิดความชำนาญเฉพาะทาง
                    2.2 หลักสายบังคับบัญชา เริ่มจากบังคับบัญชาสูงสุดสู่ระดับต่ำสุด
                    2.3 หลักเอกภาพของบังคับบัญชา (Unity of Command)
                    2.4 หลักขอบข่ายของการควบคุมดูแล (Span of control) ผู้ดูแลหนึ่งคนต่อ 6 คนที่จะอยู่ใต้การดูแลจึงจะเหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุด
                    2.5 การสื่อสารแนวดิ่ง (Vertical Communication) การสื่อสารโดยตรงจากเบื้องบนสู่เบื้องล่าง
                    2.6 หลักการแบ่งระดับการบังคับบัญชาให้น้อยที่สุด คือ ไม่ควรมีสายบังคับบัญชายืดยาว หลายระดับมากเกินไป
                    2.7 หลักการแบ่งความรับผิดชอบระหว่างสายบังคับบัญชาและสายเสนาธิการ (Line and Staff Division)
          3. ทฤษฎีบริหารองค์การในระบบราชการ(Bureaucracy) มาจากแนวคิดของ แมกซ์ เวเบอร์ (Max Weber) ที่กล่าวถึงหลักการบริหารราชการประกอบด้วย
                    3.1 หลักของฐานอำนาจจากกฎหมาย
                    3.2 การแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบ ที่ต้องยึดระเบียบกฎเกณฑ์
                    3.3 การแบ่งงานตามความชำนาญการเฉพาะทาง
                    3.4 การแบ่งงานไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนตัว
                    3.5 มีระบบความมั่นคงในอาชีพ
              จะอย่างไรก็ตามระบบราชการก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งในด้าน ข้อเสีย คือ สายบังคับบัญชายืดยาวการทำงานต้องอ้างอิงกฎระเบียบ จึงชักช้าไม่ทันการแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน เรียกว่า ระบบ “Red tape” ในด้านข้อดี คือ ยึดประโยชน์สาธารณะเป็นหลัก การบังคับบัญชา การเลื่อนขั้นตำแหน่งที่มีระบบระเบียบ แต่ในปัจจุบันระบบราชการกำลังถูกแทรกแซงทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ ทำให้เริ่มมีปัญหา
    ระยะที่ 2  ระหว่าง ค.ศ. 1945 – 1958 (ภาวิดา ธาราศรีสุทธิ, 2542: 10) ยุคทฤษฎี
มนุษยสัมพันธ์ (Human Relation ) Follette ได้นำเอาจิตวิทยามาใช้และได้เสนอ
การแก้ปัญหาความขัดแย้ง(Conflict) ไว้ 3 แนวทางดังนี้
              1. Domination คือ ใช้อำนาจอีกฝ่ายสยบลง คือให้อีกฝ่ายแพ้ให้ได้ ไม่ดีนัก
              2. Compromise คือ คนละครึ่งทาง เพื่อให้เหตุการณ์สงบโดยประนีประนอม
              3. Integration คือ การหาแนวทางที่ไม่มีใครเสียหน้า ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ทาง
ระยะที่ 3 ตั้งแต่ ค.ศ. 1958 – ปัจจุบัน (ภาวิดา ธาราศรีสุทธิ, 2542: 11) ยุคการใช้ทฤษฎีการบริหาร(Administrative Theory)หรือการศึกษาเชิงพฤติกรรมศาสตร์ (Behavioral Science Approach) ยึดหลักระบบงาน + ความสัมพันธ์ของคน + พฤติกรรมขององค์การ ซึ่งมีแนวคิด หลักการ ทฤษฎีที่หลายๆคนได้แสดงไว้ดังต่อไปนี้
        1.เชสเตอร์ ไอ บาร์นาร์ด (Chester I Barnard ) เขียนหนังสือชื่อ The Function of The Executive ที่กล่าวถึงงานในหน้าที่ของผู้บริหารโดยให้ความสำคัญต่อบุคคลระบบของความร่วมมือองค์การ และเป้าหมายขององค์การ กับความต้องการของบุคคลในองค์การต้องสมดุลกัน
        2.ทฤษฎีของมาสโลว์ ว่าด้วยการจัดอันดับขั้นของความต้องการของมนุษย์ (Maslow – Hierarchy of needs) เป็นเรื่องแรงจูงใจแบ่งความต้องการของมนุษย์ตั้งแต่ความต้องการด้านกายภาพ ความต้องการด้านความปลอดภัยความต้องการด้านสังคม ความต้องการด้านการเคารพ นับถือ และประการสุดท้าย คือ การบรรลุศักยภาพของตนเอง (Self actualization) คือมีโอกาสได้พัฒนาตนเองถึงขั้นสูงสุดจากการทำงาน แต่ความต้องการเหล่านั้นต้องได้รับการสนองตอบตามลำดับขั้น

        3.ทฤษฎี X ทฤษฎี Y ของแมคกรีกอร์(Douglas MC Gregor Theory X,
Theory Y ) เขาได้เสนอแนวคิดการบริหารอยู่บนพื้นฐานของข้อสมมติฐานเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ต่างกัน ทฤษฎี X(The Traditional View of Direction and Control) ทฤษฎีนี้เกิดข้อสมติฐานดังนี้
                    1. คนไม่อยากทำงาน และหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ
                    2. คนไม่ทะเยอทะยาน และไม่คิดริเริ่ม ชอบให้การสั่ง
                    3. คนเห็นแก่ตนเองมากกว่าองค์การ
                    4. คนมักต่อต้านการเปลี่ยนแปลง
                    5. คนมักโง่ และหลอกง่าย
ผลการมองธรรมชาติของมนุษย์เช่นนี้ การบริหารจัดการจึงเน้นการใช้เงิน วัตถุ เป็นเครื่องล่อใจ เน้นการควบคุม การสั่งการ เป็นต้น
              ทฤษฎี Y(The integration of Individual and Organization Goal) ทฤษฎีข้อนี้เกิดจากข้อสมติฐานดังนี้
                    1. คนจะให้ความร่วมมือ สนับสนุน รับผิดชอบ ขยัน
                    2. คนไม่เกียจคร้านและไว้วางใจได้
                    3. คนมีความคิดริเริ่มทำงานถ้าได้รับการจูงใจอย่างถูกต้อง
                    4. คนมักจะพัฒนาวิธีการทำงาน และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
              ผู้บังคับบัญชาจะไม่ควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเข้มงวด แต่จะส่งเสริมให้รู้จักควบคุมตนเองหรือของกลุ่มมากขึ้น ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันจากความเชื่อที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดระบบการบริหารที่แตกต่างกันระหว่างระบบที่เน้นการควบคุมกับระบบที่ค่อนข้างให้อิสระภาพ
        4.อูชิ (Ouchi ) ชาวญี่ปุ่นได้เสนอ ทฤษฎี Z (Z Theory) (William G. Ouchi) ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัย UXLA (I of California Los Angeles) ทฤษฎีนี้รวมเอาหลักการของทฤษฎี X , Y เข้าด้วยกัน แนวความคิดก็คือ องค์การต้องมีหลักเกณฑ์ที่ควบคุมมนุษย์ แต่มนุษย์ก็รักความเป็นอิสระ และมีความต้องการหน้าที่ของผู้บริหารจึงต้องปรับเป้าหมายขององค์การให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบุคคลในองค์การ
2.  นำหลักการดังกล่าวไปใช้อย่างไร
     สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ที่เราสามารถที่จะเข้ากับสังคมได้ดี  มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี  เข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์มีความแตกต่างกัน
 ที่มา  http://www.kru-itth.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=420816&Ntype=6

แนะนำตนเอง


ชื่อ                  นางสาวสุวรรณภา  บุญเชิด
ชื่อเล่น             namaoy
วันเกิด             18  พ.ย 2532

การศึกษา        จบมัธยมศึกษาปีที่ 3   จากโรงเรียนบางขันวิทยา
                     จบมัธยมศึกษาปีที่ 6   จากโรงเรียนบางขันวิทยา

กำลังศึกษา      มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
                        คณะครุศาสตร์   หลักสูตร  สังคมศึกษา
สิ่งที่อยากทำ    การเป็นครูสอนสังคม

คติประจำใจ     รากฐานของบ้านคืออิฐ  รากฐานของชีวิตคือการศึกษา


วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กิจกรรมที่1

การจัดการชั้นเรียน  คือ  การจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพในห้องเรียน  การจัดการกับพฤติกรรมที่เป็นปัญหาของนักเรียน  การสร้างวินัยในชั้นเรียน  ตลอดจนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครู  และการพัฒนาทักษะการสอนของครูให้สามารถกระตุ้นพร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจในการเรียน  เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
การบริหารการศึกษา   หมายถึง กิจกรรมต่างๆ ที่บุคคลหลายคนร่วมกันดำเนินการ เพื่อพัฒนาสมาชิกของสังคมในทุกๆ ด้าน นับแต่ บุคลิกภาพ ความรู้ ความสามารถ เจตคติ พฤติกรรม คุณธรรม เพื่อให้มีค่านิยมตรงกันกับความต้องการของสังคม โดยกระบวนการต่างๆ ที่อาศัยควบคุมสิ่งแวดล้อมให้มีผลต่อบุคคล และอาศัยทรัพยากร ตลอดจนเทคนิคต่างๆ อย่างเหมาะสม เพื่อให้บุคคลพัฒนาไปตรงตามเป้าหมายของสังคมที่ตนดำเนินชีวิตอยู่